1

วิธีการติดตั้ง CentOS 5.4 บน VMWare

เว็บไซต์ http://www.centos.org
CentOS ย่อมาจาก The Community Enterprise Operating System เวอร์ชั่นล่าสุดคือ 5.4 บทความต่อไปนี้จะแสดงวิธีการติดตั้ง CentOS
5.4 บนเครื่อง Windows ผ่านโปรแกรม VMware นะครับ

ดาวน์โหลดเวอร์ชั่น 5.4 แบบ 64 บิตในรูปแบบไฟล์ dvd ขนาดประมาณ 4.3 G ได้ที่เว็บไซต์นี้ http://mirror.issp.co.th/centos/5.4/iso ... in-
DVD.iso
ดาวน์โหลดเวอร์ชั่น 5.4 แบบ 32 บิตในรูปแบบไฟล์ dvd ขนาดประมาณ 3.7 G ได้ที่เว็บไซต์นี้ http://mirror.issp.co.th/centos/5.4/iso ... in-
DVD.iso
เป็นไฟล์ .iso ดาวน์โหลดเสร็จก็ไรท์ลงแผ่น DVD ได้เลยครับ ตอนไรท์ก็ใช้โปรแกรม Nero, PowerISO หรือโปรแกรมอื่นๆก็ได้ที่ไรท์ไฟล์ .iso ได้
ตอนติดตั้งก็อาจจะติดตั้งบนเครื่องเปล่า หรือว่าถ้าไม่มีเครื่องเปล่าก็ติดตั้งไว้บนเครื่องวินโดว์ที่ใช้งานอยู่ก็ได้ครับโดยใช้โปรแกรม VMware
ช่วย และเนื่องจากผมไม่มีเครื่องเปล่าก็เลยจะแนะนาการติดตั้งลงบน WMware บนเครื่อง Windows XP นะครับ

1. ติดตั้ง VMware
โปรแกรม VMware ติดตั้งง่ายมากครับ ติดตั้งเหมือนโปรแกรมบน Windows ทั่วๆไป

2. คอนฟิกโปรแกรม VMware
2.1 รันโปรแกรม
ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไอคอน WMware บนหน้าเดสท๊อป

2.2 เลือก "Yes, I accept the term in the license agreement" จะเห็นเฉพาะตอนรันครั้งแรกเท่านั้นนะครับ

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 2

2.3 หน้า Tip of the day คลิ๊ก "Close"

2.4 หน้า Web Check คลิ๊ก "Cancel"

2.5 และนี่คือหน้าตาของโปรแกรม VMware ครับ

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 3

3 สร้าง Virtual Maching

3.1 ที่หน้าหลักของโปรแกรม คลิ๊กที่ "New Virtual Machine"

3.2 จะมี Wizard ปรากฏขึ้นมา คลิ๊ก "Next"

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 4

3.3 เลือก "Typical" และคลิ๊ก "Next"

3.4 เลือก Guest Operating System ให้เลือก OS ที่เรากาลังจะติดตั้งลงไปครับ กรณีนี้ผมเลือก Guest OS เป็น Linux และ Version เป็น
Red Hat Enterprise Linux 5 เพราะว่า CentOS 5.4 นี้มีที่มาจาก Red Hat Enterprise 5.4 ครับ และผมจะติดตั้งแบบ 32 บิตเพราะว่า CPU
ในเครื่องเป็นแบบ 32 บิต (แผ่นติดตั้ง Centos 5.4 เป็นแบบ x86 หรือ 32 บิต)
Note! ถ้า CPU ในเครื่องเป็นแบบ 64 บิตก็เลือก Red Hat Enterprise Linux 5 64 Bit นะครับ (และใช้แผ่นติดตั้งเป็นแบบ x86_64 หรือ 64
บิต) ถ้าไม่แน่ใจว่า CPU ในเครื่องเป็น 32 หรือ 64 บิตก็เลือกแบบ 64 บิตดู ถ้า VMware ไม่ยอมก็แสดงว่าเป็น 32 บิตครับ

3.5 เช็คฮาร์ดดิสก์ในเครื่องว่ามีไดร์ฟไหนเหลือเนื้อที่บ้าง ให้เหลืออย่างน้อยประมาณ 8 GB นะครับ (แต่น้อยกว่านี้ก็ไม่เป็นไร) เพราะต้องใช้

เนื้อที่ว่างนี้ติดตั้ง CentOS ครับ

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 5

3.6 ตั้งชื่อ Virtual Maching Name และเลือกไดร์ฟที่จะติดตั้ง (เลือกเป็นโฟลเดอร์ก็ได้นะครับ) ไม่จาเป็นต้องเป็นไดร์ฟเปล่าก็ได้นะครับ ขอให้

มีเนื้อที่เหลือพอ

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 6

3.7 เลือก Network Type ที่ Guest Operating System จะใช้ติดต่อกับโลกภายนอก

3.8 เลือกเนื้อที่บนฮาร์ดดิสก์ที่จะใช้ในการติดตั้ง CentOS 5.4 ดีฟอลท์คือ 8 GB

3.9 สาเร็จแล้ว คลิ๊ก "Close" ได้เลยครับ

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 7

3.10 นี้คือหน้าตาโปรแกรม VMware พร้อมด้วย Guest OS ทีเราเพิ่งสร้างเสร็จ

4. ติดตั้ง CentOS
Note! สาหรับท่านที่ติดตั้งบนเครื่องเปล่า ให้เซ็ตไบออสให้บู๊ตจากไดร์ฟดีวีดีได้ ให้ใส่แผ่นติดตั้งเข้าไปในไดร์ฟ แล้วบู๊ตเครื่อง

4.1 ใส่แผ่น DVD ของ CentOS 5.4 เวอร์ชั่น 32 บิต (x86) เข้าไปในไดร์ฟซีดีรอม
4.2 มาที่หน้าเมนูหลักของ VMware
4.3 คลิ๊กขวาที่ "CentOS 5.4" แล้วเลือก "Power On"

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 8

4.4 ถ้าเจอข้อความแบบนี้ (ฟ้องว่าหาไดร์ฟ Floppy Disk ไม่เจอ) คลิ๊ก "Cancel" ได้เลยครับ ถ้าในเครื่องไม่มีไดรฟ์ Floppy Disk มันจะฟ้อง

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 9

4.5 รอสักครู่จะปรากฏหน้าติดตั้ง CentOS ครับ ดังรูป

รอสักครู่หรือกด Enter ก็ได้ครับ (เร็วดี)

Note! เลื่อนเม๊าส์ไปที่บริเวณหน้าจอของ CentOS เราก็จะควบคุมเคอร์เซอร์ใน CentOS ได้ และกดปุ่ม Ctrl+Alt เพื่อเรียกเม๊าส์บน Windows
กลับคืน
4.6 เป็นขั้นตอนการตรวจสอบแผ่นดิสก์ กดปุ่ม "Tab" เลื่อนไปที่ "Skip" เลยครับ แล้วกด Enter จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอ

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 10

4.7 ตรวจสอบการ์ดจอและเม๊าส์ การ์ดจอ CentOS มองเห็นจะเป็นของ VMware นะครับไม่แสดงชื่อการ์ดจริงๆที่อยู่บนเครื่อง

4.8 เข้าสู่หน้าติดตั้งแบบกราฟิกส์

4.9 เลือกภาษาที่จะใช้แสดงข้อความในระหว่างการติดตั้ง

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 11

4.10 เลือกภาษาของแป้นคีย์บอร์ด

4.11 แจ้งเตือนให้ทราบว่าจะมีการสร้างพาร์ติชั่นใหม่ ข้อมูลจะถูกล้าง แต่ไม่ต้องกังวลครับเพราะมันจะถูกล้างเฉพาะส่วนที่เรากันไว้ใน

VMware เท่านั้น ข้อมูลในเครื่องที่อยู่ในไดร์ฟนั้นจะไม่เป็นอะไร

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 12

4.12 ค้นหาว่าในพาร์ติชั่นมีติดตั้ง CentOS

4.13 เลือกพาร์ติชั่นที่จะติดตั้ง

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 13

4.14 ยืนยันพาร์ติชั่นและยอมรับว่าข้อมูลข้างในจะถูกล้าง

4.15 คอนฟิกไอพีแอดเดรสของการ์ดแลน ถ้ามีหลายการ์ดก็จะมองเห็นทั้งหมด คลิ๊กที่ชื่อการ์ดแลนแล้วคลิก๊ Edit

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 14

4.16 ป้อนค่า IP Address, Subnet Mask และจะปิด IPv6 ด้วยก็ได้เพราะ (ยัง) ไม่ได้ใช้ (อีกนานกว่าจะได้ใช้)

4.17 ป้อนค่า Hostname, Gateway, DNS

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 15

4.18 เลือก Timezone สาหรับประเทศไทยให้เลือก Asia/Bangkok นะครับ ซึ่งจะมีเวลามาตรฐานคือ GMT + 7

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 16

4.19 ป้อนพาสเวอร์ดสาหรับ root

4.20 เลือกว่าจะติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ผมจะไม่ติดตั้งเดสท๊อปนะครับ ไม่ว่าจะเป็น KDE หรือว่า Gnome ก็ตาม คลิ๊กเอา

เครื่องหมาย "ถูก" ข้างหน้า "Desktop Gnome" ออก เพราะว่าจะใช้งานแบบพิมพ์คาสั่งไม่ได้ใช้งานแบบกราฟิก อีกอย่างปกติเวลาผมติดตั้ง
CentOS ติดตั้งเสร็จก็จะเอาไปฝากโคโลไว้ แล้วรีโมทด้วย SSH Client เข้าไปทางานจึงไม่มีความจาเป็นต้องใช้เดสท๊อป แต่ถ้าท่านจะติดตั้ง
เดสท๊อปก็ได้ครับ เลือกเอาว่าจะใช้แบบ Gnome หรือว่า KDE ถึงแม้จะติดตั้งเดสท๊อปแต่เราก็สามารถปิดไม่ให้โหลดขึ้นมาใช้งานได้
นอกจากเดสท๊อปแบบกราฟิกซ์แล้ว ผมยังไม่เลือกติดตั้งโปรแกรมอื่นๆเลยเพราะผมจะติดตั้งเองภายหลัง แต่มีตัวหนึ่งที่ผมจะติดตั้งพร้อมกัน
เลยก็คือโปรแกรมสาหรับการคอมไพล์ C/C++ ครับ ไว้เพื่อคอมไพล์โปรแกรมบน CentOS คลิ๊กเลือกที่ "Customize Now"

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 17

คลิ๊กที่ "Development" และทาเครื่องหมายถูกข้างหน้า "Developement Libraries"

4.21 ตรวจสอบว่าโปรแกรมที่เราเลือกติดตั้งนั้นต้องติดตั้งโปรแกรมอื่นร่วมด้วยหรือไม่ โปรแกรมบน Linux ก็เป็นแบบนี้แหล่ะครับเวลาเรา

ติดตั้งโปรแกรมอะไรก็ตามสักโปรแกรมหนึ่ง ถ้ามันต้องใช้ไลบรารี่จากโปรแกรมอื่นก็ต้องติดตั้งโปรแกรมนั้นร่วมด้วย

4.22 พร้อมที่จะเริ่มก๊อปปี้ไฟล์ลงเครื่องแล้ว
ตอนที่ 2

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 18

4.23 กระบวนการเริ่มจากฟอร์แม๊ตพาร์ติชั่น (เฉพาะ 8 GB ที่เราจองไว้บน VMware เท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ฟอร์แม๊ตทั้งไดร์ฟ)

4.24 ก๊อบปี้ไฟล์ลงฮาร์ดดิสก์ รอจนเสร็จครับ

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 19

4.25 ก๊อปปี้ไฟล์เสร็จแล้ว แผ่นติดตั้งจะเลื่อนออกมาจากถาดของไดร์ฟดีวีดี หยิบแผ่นออกมา แล้วคลิ๊ก "Finish" เครื่องจะรีบู๊ต (ไม่ใช่เครื่อง

คอมทั้งเครื่องนะครับที่รีบู๊ต รีบู๊ตเฉพาะการติดตั้ง CentOS เท่านั้น)

เป็นอันว่าการติดตั้ง CentOS ผ่านไปด้วยดีครับ รอให้กระบวนการรีสตาร์ทผ่านไป จนมองเห็นพร้อมท์ล๊อกอิน

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 20

4 รัน CentOS
สาหรับเครื่องเปล่า หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว รีสตาร์ทเครื่องก็จะเข้า CentOS อัตโนมัติเลยครับ แต่สาหรับท่านที่ใช้ VMware ต้องสั่ง Power
On จากโปรแกรม VMware จึงจะรัน CentOS ได้ สาหรับการสั่งรันผ่าน VMware มีขั้นตอนต่อไปนี้ครับ

4.1 ที่เมนูหลักของ VMware คลิ๊กขวาที่ CentOS 5.4 แล้วเลือก Power On (แน่ใจว่าเอาแผ่นดีวีดีออกจากไดร์ฟแล้วนะครับ ไม่งั้นจะเป็นการ
ติดตั้งใหม่ อีกรอบ)

4.2 รอสักครู่

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 21

4.3 เครื่องจะทาการโหลดเคอร์เนล ไดร์เวอร์ และโปรแกรมที่ถูกเซ็ตให้รันทุกครั้งที่เปิดเครื่อง

4.4 รอจะโหลดเสร็จ ครั้งแรกจะเห็นหน้า Setup Agent แบบนี้ครับ (จะเห็นเฉพาะตอนรัน CentOS ครั้งแรก)

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 22

เอาไว้เซ็ต Network, Firewall, SELinux และโปรแกรมที่จะให้รันตอนเปิดเครื่อง สาหรับตอนนี้เราเข้าไปที่เมนู "Firewall Configuration" เมนู

เดียวก็พอ
4.4 กดปุ่มลูกศรเลื่อนมาที่ "Firewall Configuration" แล้วกดปุ่ม Tab เลื่อนแถบมาที่ "Run Tool" จากนั้นกดปุ่ม Enter

ใช้ปุ่ม Tab เพื่อเลื่อนตัวเลือก ใช้ปุ่ม Spacebar เพื่อเลือก/ไม่เลือกออปชั่น

4.5 ที่ "Security Level" เลือก "Disabled" เป็นการปิด Firewall ไปก่อน (CentOS ให้โปรแกรม iptables เป็นไฟร์วอลล์ครับ เราเปิดใช้ภายหลัง
ได้) และที่ "SELinux" ให้เลือก "Disabled" ครับ เป็นการปิด SELinux (ควรปิด SELinux ครับ ไม่งั้นเดี๋ยวอาจจะมีปัญหาในการติดตั้งและรัน
โปรแกรมได้)

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 23

แล้วกด Tab เลื่อนแถบมาที่ "OK" แล้วกด Enter

4.6 กด Tab เลื่อนแถบไปที่ "Exit" แล้วกด Enter เพื่อออกจาก Setup Agent ครับ
4.7 รอสักพักก็จะเข้าสู่หน้าล๊อกอิน

ให้ล๊อกอินด้วย root และพาสเวอร์ดตามที่ตั้งไว้ตอนติดตั้ง CentOS

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 24

เป็นอันว่าเรียบร้อยแล้วครับ

5 สิ่งที่ควรทาหลังจากติดตั้ง
5.1 อัพเดท CentOS
ควรอัพเดทจะได้เป็นการปรับปรุง CentOS ของเราให้ทันสมัย แก้ข้อบกพร่องของโปรแกรม และบางทีก็อาจจะเพิ่มความปลอดภัยด้วย
yum -y update

รอจนอัพเดทเสร็จ และถ้าสะดวกก็รีสตาร์ทเครื่องด้วยก็ได้ ใช้คาสั่ง reboot

5.2 ลบข้อความบนหน้าจอล๊อกอิน
ด้านบนของพร้อมท์ล๊อกอินเข้า CentOS ดีฟอลท์จะบอกเวอร์ชั่นและเคอร์เนลที่กาลังรันอยู่ในเครื่อง ซึ่งว่ากันว่าไม่ค่อยดีนักที่เราจะประกาศ
ให้คนอื่นเขารู้ว่าเครื่องเซอร์เวอร์เราใช้ระบบปฏิบัติการอะไรใช้เคอร์เนลเวอร์ชั่นอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องที่ต่อกับอินเตอร์เน็ต ทุกวันนี้มี
บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com
 25

คนพยายามจะล๊อกอินเข้ามาที่เครื่องเราอยู่แทบจะทุกวินาที (เขาเดาไอพีเอา) แม้ว่าจะเข้าไม่ได้ก็ตามเพราะไม่รู้พาสเวอร์ด แต่เขาก็จะเห็น

ระบบปฏิบัติการในเครื่อง ถ้าเขารู้ช่องโหว่ก็เข้ามาจัดการเครื่องของเราได้ไม่ยาก ทางที่ดีไม่ให้มันโชว์หรือไม่ก็แก้ให้โชว์เป็นอย่างอื่นไปเลย

มีอยู่ 2 ไฟล์ที่ใช้แสดงข้อความนี้ครับ คือไฟล์ issue และ issue.net อยู่ในไดเร็คตอรี่ /etc ทั้งสองไฟล์

ลบข้อมูลในไฟล์ทิ้งหรือแก้ไขให้เป็นข้อความที่อยากจะให้โชว์

5.3 เปลี่ยนแปลงไอพีแอดเดรส
พิมพ์คาสั่ง system-config-network หรือ sytem-config-network-tui

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 26

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com

 27

บทความโดย “คุณหนุ่ย” แห่งเว็บ voip4share.com