Академический Документы
Профессиональный Документы
Культура Документы
3
๑.ข ้อใดคือลักษณะของตลาดแข่งขันสมบูรณ์
ก. สินค ้ามีลก ั ษณะแตกต่างกัน
ข. ผูซ ื้
้ อและผู ข
้ ายมีจานวนไม่มาก
ค. ข ้อมูลเกียวกั ่ บตลาดเป็ นความลับ
ง. ผูผ ้ ลิตสามารถเลิกล ้มกิจการได ้ง่าย
๒.ข ้อใดคือสิงที ่ ตลาดแข่
่ ่ งขันกึงผู
งขันสมบูรณ์และตลาดกึงแข่ ่ กขาดเหมือนกัน
ก. รูปลักษณ์และราคาของสินค ้า
ข. ผูผ ้ ลิตรายใหม่เข ้าสู่ตลาดได ้ง่าย
ค. การใช ้วิธก ี ารแข่งขันทางการตลาด
ง. การร ับรู ้ข ้อมูลและรายละเอียดเกียวกั ่ บสินค ้า
๓.“ตลาดทีมี ่ ผูข ้ ายเพียงไม่กราย ่ี
แต่ละรายจะผลิตและจาหน่ ายสินค ้าเป็ นสัดส่วนมาก”
ตลาดลักษณะดังกล่าวจาหน่ ายสินค ้าใด
ก. หนังสือพิมพ ์
ข. ผักและผลไม ้
ค. เครืองใช ่ ้ไฟฟ้ า
ง. อาหารสาเร็จรูป
๔.ข ้อใดคือสินค ้าในตลาดผูกขาด
ก. ไฟฟ้ า ประปา
ข. ข ้าวโพด ยางพารา
ค. น้าอัดลม ปูนซีเมนต ์
ง. เครืองปร ่ ับอากาศ โทรทัศน์
๕.ข ้อใดคือพฤติกรรมของตลาดผูข ้ ายน้อยราย
ก. ผูข ้ ายจะไม่ใช ้ราคาเป็ นเครืองมื ่ อในการแข่งขัน
ข. ผูข ้ ายจะกาหนดราคาสินค ้าใหแ้ ตกต่างจากรายอืน ่
ค. ผูข ้ ายจะสร ้างความแตกต่างในด ้านรูปลักษณ์ของสินค ้า
ง. ผูข ้ ายจะผลิตสินค ้าให ้มีคณ ุ ภาพใกลเ้ คียงกับรายอืน่
๖.ข ้อใดเป็ นไปตามกฎของอุปทาน
ก. น้อยอยากได ้กระเป๋ าใหม่แต่ไม่มเี งิน
ข. น้าเห็นว่ามังคุดมีราคาถูกจึงนามังคุดมาขาย
ค. ก ้องนาเสือยื ้ ดออกขายเพิมเพราะราคาสิ
่ นค ้าสูงขึน้
ง. นุ่ นขายพวงมาลัยมากขึนเพราะดอกมะลิ ้ มรี าคาแพง
๗.ปัจจัยใดไม่มผ ี ลต่อการกาหนดอุปสงค ์
ก. ฤดูกาล
ข. รายได ้ของผูบ้ ริโภค
ค. กรรมวิธใี นการผลิต
ง. รสนิ ยมของผูบ้ ริโภค
่ อไก่
๘.“เมือเนื ้ ขนราคา ึ้ ้ อปลาไปท
สมใจจึงซือเนื ้ ากับข ้าวแทน”
จากข ้อความนี ปั ้ จจัยใดมีผลต่อความต ้องการซือของสมใจ ้
ก. ฤดูกาล
ข. รายได ้ของผูบ้ ริโภค
ค. รสนิ ยมของผูบ้ ริโภค
ง. ราคาสินค ้าอืนที ่ เกี่ ยวข่ ้อง
้
๙.“มนัสซือรองเท ้ากีฬายีห ่ ้อดังและมีราคาแพง แมว้ ่าจะต ้องเก็บเงินนานเป็ นเดือน”
จากข ้อความนี ปั ้ จจัยใดมีผลต่อความต ้องการซือของมนั ้ ส
ก. ฤดูกาล
ข. รายได ้ของผูบ้ ริโภค
ค. รสนิ ยมของผูบ้ ริโภค
ง. ราคาของสินค ้าและบริการ
๑๐.ฤดูกาลมีผลต่อการเปลียนแปลงของอุ ่ ปสงค ์ของสินค ้าในข ้อใด
ก. กางเกงยีนส ์
ข. นมพร่องมันเนย
ค. โทรศัพท ์เคลือนที ่ ่
่
ง. เครืองปร ับอากาศ
๑๑.ตามกฎของอุปสงค ์จานวนสินค ้าและราคามีความสัมพันธ ์กันอย่างไร
ก. เป็ นไปในทิศทางเดียวกัน
ข. เป็ นไปในทิศทางตรงกันข ้าม
ค. ราคาไม่มผ ี ลต่อปริมาณสินค ้า
ง. ไม่มข ี ้อถูก
๑๒.สินค ้าในข ้อใดไม่จาเป็ นต ้องซือในฤดู ้ กาล
ก. พัดลม
้ นฝน
ข. เสือกั
่ าน้าอุน
ค. เครืองท ่
่
ง. โทรศัพท ์เคลือนที ่
๑๓.ข ้อใดกล่าวผิด
ก. ราคาของสินค ้าไม่มผ ี ลต่อการเสนอขายสินค ้าของผูผ ้ ลิต
่ ้นทุนการผลิตลดลง ผูผ
ข. เมือต ้ ลิตจะนาสินค ้าออกมาขายมากขึน้
ค. การคาดคะเนของราคาสินค ้าอาจก่อให ้เกิดปัญหาการกักตุนสินค ้า
่
ง. จานวนสินค ้าทีเสนอขายมี ความสัมพันธ ์ทิศทางเดียวกันกับราคาสินค ้า
๑๔.ปริมาณเสนอขายทีมากกว่ ่ าปริมาณความต ้องการซือมี ้ ผลตามข ้อใด
ก. สินค ้าล ้นตลาด
ข. สินค ้าขาดตลาด
ค. สินค ้ามีราคาแพงขึน้
ง. ไม่มผ ี ลต่อราคาสินค ้า
๑๕.ราคาและปริมาณซือที ้ เท่ ่ ากับปริมาณเสนอขายพอดีเรียกว่าอะไร
ก. ราคาสมดุล
ข. ราคาประมูล
ค. ราคาคุณภาพ
ง. ราคาดุลยภาพ
๑๖.ภาษีหรือเงินช่วยเหลือมีความสาคัญต่อผูผ ้ ลิตหรือไม่ อย่างไร
ก. มี เพราะช่วยทาให ้ต ้นทุนการผลิตต่าลง
ข. มี เพราะช่วยใหผ ้ ูข ้
้ ายตังราคาสิ นค ้าได ้แพงขึน้
ค. ไม่มี เพราะภาษีเป็ นเงินทีผู ่ ผ ้ ลิตต ้องจ่ายให ้ร ัฐบาล
ง. ไม่มี เพราะเงินช่วยเหลือไม่ได ้ทาให ้ผูผ ้ ลิตขยายการผลิตได ้
๑๗.ถ ้าอัตราเงินเฟ้ อเท่ากับร ้อยละ ๑๐ เงิน๒๐๐ บาท เงินจะมีอานาจซือเป็ ้ นเท่าใด
ก. ๑๘๐
ข. ๒๐๐
ค. ๒๑๐
ง. ๒๒๐
๑๘.ภาวะเงินเฟ้ อในระดับปกติอยู่ทเท่ ่ี าใด
ก. ร ้อยละ ๒ – ๓
ข. ร ้อยละ ๓ – ๕
ค. ร ้อยละ ๕ – ๗
ง. ร ้อยละ ๗ – ๑๐
่ มาณเงินทุนหมุนเวียนมีไม่เพียงพอต่อขนาดของระบบเศรษฐกิจชีให
๑๙.การทีปริ ้ ้เ
ห็นว่าประเทศกาลังประสบปัญหาใด
ก. เงินฝื ด
ข. เงินเฟ้ อ
ค. การว่างงาน ง. ผลผลิตตกต่า
่ ดภาวะเงินเฟ้ อ อัตราดอกเบียที
๒๐.เมือเกิ ้ เป็
่ นตัวเงินสูงขึน้
ผูอ้ อมควรปกป้ องตนเองไม่ให ้สูญเสียอานาจซือของเงิ ้ นด ้วยวิธใี ด
้
ก. ซือทองค า
ข. เก็บเงินสด
ค. ฝากธนาคาร
ง. กักตุนของกินของใช ้
๒๑.ข ้อใดกล่าวถึงภาวะเงินฝื ดได ้ถูกต ้องทีสุ ่ ด
้
ก. ลูกหนี จะได ้เปรียบ
ข. ก่อให ้เกิดการจ ้างงานเต็มที่
้
ค. ผูม้ รี ายได ้ประจาและเจ ้าหนี จะได ้เปรียบ
ง. ประชาชนจะเร่งใช ้จ่ายเงินซือสิ ้ นค ้าและบริการ
๒๒. “โรงงานเย็บผา้ สังซื่ อเครื
้ ่ กรมาใช ้ในการผลิต เพือลดจ
องจั ่ านวนคนงาน”
การลดจานวนคนงานก่อให ้เกิดปัญหาการว่างงานเนื่ องจากสาเหตุใด
ก. ว่างงานเนื่ องจากวัฏจักร
ข. ว่างงานเนื่ องจากโครงสร ้าง
ค. ว่างงานตามปกติในตลาดแรงงาน
ง. ว่างงานเนื่ องจากค่าแรงไม่ยด ื หยุ่น
๒๓.การช่วยครอบครวั ทาสวนผลไมแ้ ละผลิตสินค ้าหัตถกรรมในคร ัวเรือน
เป็ นการว่างงานหรือไม่ อย่างไร
ก. เป็ น เพราะไม่ได ้ร ับค่าจ ้างตอบแทน
ข. เป็ น เพราะไม่ได ้เสียภาษีเงินได ้ให ้ร ัฐ
ค. ไม่เป็ น เพราะได ้อาหารและทีอยู่ ่อาศัยเป็ นสิงตอบแทน
่
ง. ไม่เป็ น เพราะการช่วยครอบคร ัวเป็ น
การทางานอย่างหนึ่ ง
๒๔.ข ้อใดไม่ใช่สภาพปัญหาท ้องถินในปั่ จจุบน ั
ก. ราคาผลผลิตตกต่า
ข. การบริโภควัตถุนิยมเกินตัว
ค. การใช ้สารเคมีทางการเกษตร
ง. การกีดกันทางการค ้าในต่างประเทศ
๒๕.การดาเนิ นการตามแนวปร ัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โดยใช ้หลักปรช ั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็ นแนวทางในการดาเนิ นชีวต ิ เป็ นบทบ
าทของร ัฐบาลกับการพัฒนาประเทศในด ้านใด
ก. ด ้านเศรษฐกิจ
ข. ด ้านการต่างประเทศ
ค. ด ้านการบริหารราชการแผ่นดิน
ง. ด ้านการมีส่วนร่วมของประชาชน
๒๖.ข ้อใดเป็ นบทบาทของร ัฐบาลในการบริหารประเทศด ้านวิทยาศาสตร ์
ทร ัพย ์สินทางปัญญาและพลังงาน
ก. การจัดทาบริการสาธารณะ
ข. การดูแลรกั ษาทร ัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
ค. การร ักษาและพัฒนาภูมป ิ ัญญาท ้องถินและภู่ มป
ิ ัญญาไทย
ง. การส่งเสริมการค ้า การลงทุน และการท่องเทียวกั ่ บนานาประเทศ